การ ใช้ภาษาในงานเขียนกับอาการ writer block ตอนที่ 1
สืบเนื่องมาจากช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ผมโดนโรคสุดฮิตของนักเขียนเล่นงานเอาเต็มๆ กว่าจะฟื้นตัวได้เล่นเอาเหนื่อยข้ามเดือน ไม่ใช่โรคอะไรอื่นไกลอะไรหรอกครับแต่เป็นโรคที่จะเรียกว่าเคียงคู่กับนัก เขียนหน้าใหม่หน้าเก่า เก๋าแก่ โดยนักเขียนผู้อาวุโสเรียกมันว่า "อาการเขียนไม่ออก" หรือภาษาปะกิดสำแดงคำดังนี้ "Writer Block!"
เมื่อถูกโรคเขียนไม่ออกเล่นงาน ไฉนเลยผมจะอยู่นิ่งเฉยได้เพราะไอ้โรคนี้มันค่อนข้างรุนแรงสำหรับนักเขียนทุก ท่าน บางท่านจัดเป็นโรคน่าสะพรึงกลัวอันดับหนึ่ง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้พาลจะกลายเป็นโรคเรื้อรังยากต่อการเยียวยารักษา ในที่สุดบางรายต้องทิ้งงานเขียนสุดรักไปทำอย่างอื่นที่น่าอภิรมย์กว่าเลยก็ มี คิดได้แบบนี้จึงต้องรีบงัดอาวุธออกมาสู้นั่นคือ สติปัญญาของมนุษย์ตัวอ้วนๆคนหนึ่ง (ผมเองแหล่ะ)...
ในเมื่อรักจะเป็นนักเขียน (อาชีพ) หรือสมัครเล่นก็ต้องรีบหายาชั้นดีมารักษา ทันใดนั้นสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดนั่นคือคำถามแรก "อะไรมาblockตรูฟะเนี่ย?"ถ้ารู้สาเหตุก็มีชัยไปกว่าครึ่ง...
หลังจากโดนคำถามเล่นงานผมก็นั่งหลับตาทบทวนตัวเองเพื่อค้นหาคำตอบต่อคำถาม ที่ว่าอะไรเป็น สาเหตุอะไรที่ทำให้เขียนไม่ออก จนทำให้นิ้วที่เคยตวัดปากกาลงสมุดอย่างพริ้วไหวหรือพรมลงบนแป้นคีย์บอร์ด อย่างคล่องแคล่วแข็งทื้อเป็นสากกะเบือจิ๋วๆแบบนี้
ในที่ สุดก็ค้นพบ...
"ภาษาแข็ง" คือ ชนิดของโรคเขียนไม่ออกที่กำลังโจมตีผม...จนทำให้ไม่สามารถถ่ายทอด plot แนวคิดหรือโครงเรื่องที่เตรียมเอาไว้อย่างดีออกมาเป็นประโยคในนิยาย เรื่องสั้นได้ อาการนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ
ชนิดแรก...อาการที่เรียกว่าภาษาแข็งนั้นคล้ายๆกับอาการคิดคำไม่ ออก เลยไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปทั้งๆที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าจะถ่ายทอดซีนของนิยาย หรือเรื่องสั้นตอนนั้นแบบไหน เพียงแต่มันติดที่ว่า จะเขียนออกมายังไงดีและจะเลือกใช้คำแบบไหนดีให้อ่านแล้วรื่นไหลเป็นปลาไหล แถวสภาผู้แทน
อาการภาษาแข็งชนิดที่สองสุดฮิตไม่แพ้ชนิดแรก แต่แตกต่างกันตรงที่เจ้าอาการชนิดที่สองนั้นนักเขียนสามารถเขียนได้ ถ่ายทอดออกมาได้แต่รูปประโยคที่ปรากฎแข็งกระด้าง อ่านแล้วไม่ไหลรื่นคล่้องลิ้น
ผมกำลังถูกอาการทั้งสองชนิดเล่นงาน...โดยเฉพาะชนิดที่สองซึ่งกำลังทวีความ รุนแรงขึ้นทุกๆวัน ส่งผลให้นิยายไซไฟเรื่องหนึ่งที่เขียนถึงตอนที่ 9 ต้องหยุดชะงักงันค้างเติ่งราวกับถูกสาปให้จบแค่ตอนนั้นทั้งๆที่วางโครง เรื่องไว้ 16 ตอน!
แล้วจะทำยังไง...
ด้วยความที่งานประจำของผมเกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ หาสาเหตุของปัญหาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานผิดพลาด (ทางด้านเทคนิคเรียกตำแหน่งนี้ว่า FA หรือ Failure Analysis) ผมจึงเริ่มต้นร่ายหัวข้อของสาเหตุที่น่าจะเป็นต้นตอของอาการเขียนไม่ออกโดย มีไอเดียว่าการแก้ปัญหาอาการเขียนไม่ออกนั้นไม่ต่างจากการหาสาเหตุของอาการ failures ของชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ซึ่งอัลกอริธึมในการคิดน่้าจะเหมือนกัน และนี่คือสาเหตุของปัญหาใหญ่ๆเกี่ยวกับ writer block ที่ผมค้นพบ
• อ่านนิยาย เรื่องสั้นน้อยลง
• ขาดการฝึกเขียนในทุกๆวัน
• คิดมากเกินไป
ตอนต่อไปผมจะมาขยายความถึงรายละเอียดให้ฟังว่าแต่ละสาเหตุมีที่มาที่ไปอย่าง ไรและจะเอาชนะมันได้ยังไงครับ ท่านใดมีไอเดียดีๆสามารถ post แบ่งปันต่อกระทู้ได้ครับ
Supernova Blog Story
บล็อกเกี่ยวกับ หนัง เพลง หนังสือ คอมพิวเตอร์ ท่องเที่ยว การใช้ชีวิต การทำงาน และเรื่องราวทุกอย่างบนโลกนี้ ตั้งแต่สากกะเบือ ยัน เรือรบ (Tips for Movies, Song, Books, Computer, Travels, Life, Smart Working, and everthings in this World... from a pestle to War Ship)
Friday, March 4, 2011
Tuesday, December 1, 2009
Avatar สุดยอดภาพยนต์ไซไฟจากผู้กำกับไททานิค!

Avatar สุดยอดภาพยนต์ไซไฟจากผู้กำกับไททานิค!

“แทบจะอดทนรอดูไม่ไหวแล้วครับ กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนต์บ้านเราวันที่ 17 พ.ย. 2552 เชื่อว่าฉายรอบแรกจะเกิดปรากฎการณ์คนเยอะจนโรงแตกแน่ๆ
มีให้ชมทั้ง ระบบ 3D ที่โรงแบบ digital pictures กับ IMAX 3D บนจอสูงขนาดตึกกี่ชั้น? (จำไม่ได้แล้ว)”
ข้อมูลเรื่อง Avatar
Title: Avatar
Genre: Science-Fiction
Directed by: James Cameron
Written by: James Cameron
Starring:
Sam Worthinghton, Zoe Saldana, Sigourney Weaver, Stephen Lang, Michelle Rodriguez
Budget: $195 Million ลงทุนสร้าง
Music by: James Horner
Status: In Production
Release Date: December 18, 2009 วันที่ออกฉายทั่วโลก
จากภาพตัวอย่าง น่าจะเป็นแนวไซไฟแฟนตาซีมากกว่าฮาร์ดไซไฟครับ
Thursday, November 26, 2009
เวปสอนวาดการ์ตูนน่ารักๆครับ...รับรองต้องชอบ

แนะนำเวปดีๆวันนี้จะพาไปพบกับเวปสอนวาดการ์ตูนน่ารักๆครับ บังเอิญไปเจอตอนค้นข้อมูลใน google
เนื้อหาในเวปจะสอนวาดรูปการ์ตูนหลายๆประเภทครับ ทั้งภาพสัตว์ คน รถยนต์ สิ่งของ โดยสอนเป็นขั้นๆ step by step.
ด้านขวามือจะเป็นเมนู linkให้เลือกสำหรับ categories ต่างๆที่เราเลือกจากซ้ายมือ
มาวาดรูปการ์ตูนน่ารักๆกันเถอะ How to draw funny cartoons
เทคนิคงานเขียน day 7 : เทคนิคสำคัญทางจิตวิทยา..."เพิ่มความมั่นใจโดยการเขียนให้จบตามแผนที่วางไว้"

"เพิ่มความมั่นใจโดยการเขียนให้จบตามแผนที่วางไว้"
การเขียนเรื่องหรือเขียนนิยาย เกี่ยวข้องกับการสร้างความมั่นใจให้ตัวนักเขียนหรือนักอยากเขียนเองโดยตรงครับ การที่เราได้วางแผนไว้และเริ่มเขียน แต่...เขียนไม่จบสักเรื่อง ยิ่งเขียนหลายเรื่องแต่เขียนไม่จบก็ยิ่งทำลายความมั่นใจของเรา ความมั่นใจในงานเขียนจะลดลงเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวนเรื่องหรือนิยายที่เราเริ่มเอาไว้แล้วเขียนไม่จบ... นี่คือข้อเท็จจริงที่สำคัญครับ
งานเขียนนิยายไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราหรือนักเขียนเปรียบเสมือนพระเจ้าที่ต้องสร้าง "โลก" และ "ตัวละคร" ในนิยายขึ้นมาเอง ปล่อยให้ตัวละครแสดงในโลกที่เราสร้างขึ้น บรรยายการกระทำ เหตุการณ์ของพวกเขาออกมาเป็นคำพูด และแม้แต่ฆ่าตัวละครบางตัว ถ้าจำเป็นในตอนจบ
ดังนั้น เทคนิคสำหรับนักเขียนหน้าใหม่คือ...การเขียนนิยายสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ ไม่ควรเริ่มเขียนเรื่องยาวๆ ควรเริ่มจากเรื่องสั้นๆซึ่งใช้เวลาไม่มาก พอเราเขียนเรื่องสั้นๆจบเราก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น และจะสั่งสมไปเรื่อยๆตามจำนวนเรื่องที่เราเขียนจบครับ
รวมเวปสำหรับดาวโหลด Theme WordPress free ที่สวยระดับเทพ
รวมเวปสำหรับดาวโหลด Theme WordPress free ที่สวยระดับเทพ
1) อันดับแรกที่นี่เลยครับ บางอันก็สวยมากจนดูรกไปหน่อย ก็แล้วแต่ความชอบครับ
http://topwpthemes.com

2) อันนี้ของ wordpress เอง ครับ มีเยอะมากๆ simple และสะอาดตา
http://wordpress.org/extend/themes/

3) ที่นี่ก็เยอะครับ
http://www.freewpthemes.net

4) อันดับสี่
http://wordpresstemplates.name
1) อันดับแรกที่นี่เลยครับ บางอันก็สวยมากจนดูรกไปหน่อย ก็แล้วแต่ความชอบครับ
http://topwpthemes.com

2) อันนี้ของ wordpress เอง ครับ มีเยอะมากๆ simple และสะอาดตา
http://wordpress.org/extend/themes/

3) ที่นี่ก็เยอะครับ
http://www.freewpthemes.net

4) อันดับสี่
http://wordpresstemplates.name

เทคนิคงานเขียน day 6 : เขียนในแนวที่ชอบและเรื่องที่อยากเขียนจริงๆ
สิ่งสำคัญที่พึงระลึกถึงคือ เรามักทำในสิ่งที่ชอบและอยาก (รัก) ทำได้ดีครับ ดังนั้นไม่เว้นแต่นิยาย เราชอบอ่านนิยายแนวไหนก็ให้เขียนนิยายแนวนั้นก่อนเพราะ
1 เราจะมีข้อมูลเขียนพร้อมที่จะปรับปลี่ยนมาใช้กับนิยายของเรา
2 เรารู้วิธีการดำเนินเรื่องนิยายแนวนั้นๆ (เพราะเราชอบอ่านนี่นา…)
3 เราจะสนุกกับมันเพราะเป็นแนวที่เราชอบ
เมื่อเราเริ่มเขียนนิยายที่เราวางเรื่องไว้ เราจะต้องอยู่กับมันเป็นเดือนๆ บางทีก็เป็นปีๆ ดังนั้นการอยู่กับนิยายที่เราอยากเขียนและสนุกกับมันย่อมดีไปกว่าเรื่องที่เราไม่อยากเขียน แต่ต้องเขียนเพราะ นิยายแนวนั้นมีคนอ่านเยอะ ตลาดกว้าง ถ้าเราจัดอยู่ในกลุ่มนักอยากเขียนประเภทแบบนี้ รับรองว่าเขียนไม่จบแน่ๆครับ เพราะเขียนไปสักพักเราก็จะเบื่อไปก่อน
ใครที่เขียนไปแล้วเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะเขียนต่อ ลองถามตัวเองดูว่า ไอ้เรื่องที่เราเขียนอยู่เราอยากเขียน อยากสร้างโลกในนิยาย และตัวละครขึ้นมาจริงๆไหม? ถ้าเรารู้สึกทุกครั้งที่เปิดคอมฯ พลิกหน้ากระดาษคว้าปากกามาเขียน แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาในหัวว่า “เฮ้อ เบื่อ…นี่ตูต้องเจอกับไอ้ตัวละครตัวนี้อีกเหรอ หรือเฮ้อจะเขียนอะไรต่อดีวะ ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย” แนะนำให้คุณรีบหยุดเขียนและเปลี่ยนไปเขียนเรื่องอื่นดีกว่าครับ
1 เราจะมีข้อมูลเขียนพร้อมที่จะปรับปลี่ยนมาใช้กับนิยายของเรา
2 เรารู้วิธีการดำเนินเรื่องนิยายแนวนั้นๆ (เพราะเราชอบอ่านนี่นา…)
3 เราจะสนุกกับมันเพราะเป็นแนวที่เราชอบ
เมื่อเราเริ่มเขียนนิยายที่เราวางเรื่องไว้ เราจะต้องอยู่กับมันเป็นเดือนๆ บางทีก็เป็นปีๆ ดังนั้นการอยู่กับนิยายที่เราอยากเขียนและสนุกกับมันย่อมดีไปกว่าเรื่องที่เราไม่อยากเขียน แต่ต้องเขียนเพราะ นิยายแนวนั้นมีคนอ่านเยอะ ตลาดกว้าง ถ้าเราจัดอยู่ในกลุ่มนักอยากเขียนประเภทแบบนี้ รับรองว่าเขียนไม่จบแน่ๆครับ เพราะเขียนไปสักพักเราก็จะเบื่อไปก่อน
ใครที่เขียนไปแล้วเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะเขียนต่อ ลองถามตัวเองดูว่า ไอ้เรื่องที่เราเขียนอยู่เราอยากเขียน อยากสร้างโลกในนิยาย และตัวละครขึ้นมาจริงๆไหม? ถ้าเรารู้สึกทุกครั้งที่เปิดคอมฯ พลิกหน้ากระดาษคว้าปากกามาเขียน แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาในหัวว่า “เฮ้อ เบื่อ…นี่ตูต้องเจอกับไอ้ตัวละครตัวนี้อีกเหรอ หรือเฮ้อจะเขียนอะไรต่อดีวะ ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย” แนะนำให้คุณรีบหยุดเขียนและเปลี่ยนไปเขียนเรื่องอื่นดีกว่าครับ
เทคนิคงานเขียน day 5 : เขียนทุกวัน…เรื่องของอารมณ์ล้วนๆเลย…
เขียนทุกวัน…พูดง่ายแต่ทำยากครับ
การเขียนนิยายเป็นงานศิลปแขนงหนึ่ง เราคงเคยได้ยินว่า ศิลปินนักวาดรูปมักอาศัยสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์” (ไม่รู้ร่างกายผลิตออกมาจากต่อมส่วนไหนของร่างกาย จึงมีอิทธิพลต่อการกระทำเรื่องต่างๆของมนุษย์มากขนาดนี้) เพื่อเป็นสิ่งกระตุ้นให้ตัวเองอยากวาดภาพ วันไหนไม่มีอารมณ์อยากวาด อย่าว่าแต่วาดรูปง่ายๆเลย แค่จะหยิบภู่กันขึ้นมาแคะรูจมูกยังไม่อยากทำเลย …
นักเขียนไม่ต่างอะไรไปจากศิลปินครับ… ชอบเอาอารมณ์มาผูกกับนิสัยบังคับให้ตัวเองเขียนอยู่เหมือนกัน วันไหนไม่มีอารมณ์ เผลอๆไม่ได้สักตัวอักษร ยิ่งสมัยนี้ต้องมีขั้นตอนหลายขั้นก่อนจะเขียน เริ่มจากเปิดคอมพิวเตอร์ รอวินโดวส์บู้ท (ทำไม Windows ไม่เปิดปุ๊บติดปั๊บเหมือนทีวีฟะ) เปิด MS Word ขึ้นมาเพื่อลงมือพิมพ์ ยิ่งทำให้ไม่มีอารมณ์หนักไปใหญ่ เพราะยุ่งยากกว่าสมัยก่อนซึ่งแค่ยัดกระดาษขาวลงช่องของพิมพ์ดีดแค่นั้น….ก็ลงมือร่ายเรื่องราวได้แล้ว
ดังนั้นการเขียนให้ได้ทุกวันไม่ใช่ของง่ายที่จะทำสำเร็จกันได้ทุกคน บางคนบอกว่า “สามารถบังคับตัวเองให้เขียนได้ทุกวันแต่งานเขียนที่ปราศจากอารมณ์อยากเขียนมันก็เหมือนหนุ่มหล่อที่เต้นรำบนเวทีกับสาวสวยด้วยอาการแข็งเป็นสากกะเบือ งานที่ออกมาจึงไร้ชีวิตชีวา แบบนี้ไม่เขียนดีกว่า”
แต่ละท่านคงหาคำตอบให้เรื่องนี้ได้ เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัดและเอกลักษณ์ นิสัย ภาระหน้าที่ ชีวิตที่ไม่เหมือนกันครับ แต่ท้ายสุดแล้ว สิ่งที่เราต้องการคือเป้าหมายเดียวกัน…เราต้องตอบโจทย์คำถามที่ว่า… “ทำยังไงให้เราเขียนนิยาย เรื่องสั้นได้ทุกวัน?”
การเขียนนิยายเป็นงานศิลปแขนงหนึ่ง เราคงเคยได้ยินว่า ศิลปินนักวาดรูปมักอาศัยสิ่งที่เรียกว่า “อารมณ์” (ไม่รู้ร่างกายผลิตออกมาจากต่อมส่วนไหนของร่างกาย จึงมีอิทธิพลต่อการกระทำเรื่องต่างๆของมนุษย์มากขนาดนี้) เพื่อเป็นสิ่งกระตุ้นให้ตัวเองอยากวาดภาพ วันไหนไม่มีอารมณ์อยากวาด อย่าว่าแต่วาดรูปง่ายๆเลย แค่จะหยิบภู่กันขึ้นมาแคะรูจมูกยังไม่อยากทำเลย …
นักเขียนไม่ต่างอะไรไปจากศิลปินครับ… ชอบเอาอารมณ์มาผูกกับนิสัยบังคับให้ตัวเองเขียนอยู่เหมือนกัน วันไหนไม่มีอารมณ์ เผลอๆไม่ได้สักตัวอักษร ยิ่งสมัยนี้ต้องมีขั้นตอนหลายขั้นก่อนจะเขียน เริ่มจากเปิดคอมพิวเตอร์ รอวินโดวส์บู้ท (ทำไม Windows ไม่เปิดปุ๊บติดปั๊บเหมือนทีวีฟะ) เปิด MS Word ขึ้นมาเพื่อลงมือพิมพ์ ยิ่งทำให้ไม่มีอารมณ์หนักไปใหญ่ เพราะยุ่งยากกว่าสมัยก่อนซึ่งแค่ยัดกระดาษขาวลงช่องของพิมพ์ดีดแค่นั้น….ก็ลงมือร่ายเรื่องราวได้แล้ว
ดังนั้นการเขียนให้ได้ทุกวันไม่ใช่ของง่ายที่จะทำสำเร็จกันได้ทุกคน บางคนบอกว่า “สามารถบังคับตัวเองให้เขียนได้ทุกวันแต่งานเขียนที่ปราศจากอารมณ์อยากเขียนมันก็เหมือนหนุ่มหล่อที่เต้นรำบนเวทีกับสาวสวยด้วยอาการแข็งเป็นสากกะเบือ งานที่ออกมาจึงไร้ชีวิตชีวา แบบนี้ไม่เขียนดีกว่า”
แต่ละท่านคงหาคำตอบให้เรื่องนี้ได้ เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัดและเอกลักษณ์ นิสัย ภาระหน้าที่ ชีวิตที่ไม่เหมือนกันครับ แต่ท้ายสุดแล้ว สิ่งที่เราต้องการคือเป้าหมายเดียวกัน…เราต้องตอบโจทย์คำถามที่ว่า… “ทำยังไงให้เราเขียนนิยาย เรื่องสั้นได้ทุกวัน?”
Subscribe to:
Posts (Atom)